5 เทคนิค ถ่าย Timelapse แบบไม่ซ้ำใคร ด้วย Osmo Pocket

Osmo Pocket มีฟีเจอร์เด็ดให้คุณถ่ายวิดีโอ Timelapse ได้แบบไม่ซ้ำใคร ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ โดยตั้งกล้องไว้ในจุดที่เหมาะสม เพื่อบันทึกการเคลื่อนไหวของสิ่งต่างๆ เช่น ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นหรือตก หรือตอนที่ผู้คนเดินสัญจรไปมา ที่สำคัญ ยังสามารถสนุกกับ Timelapse แบบ Motionlapse ที่เคลื่อนมุมกล้องขณะถ่ายทำได้อีกด้วย! ซึ่งวันนี้ DJI Phantom Thailand มีเทคนิคการถ่าย Timelape ด้วย Osmo Pocket ที่จะช่วยให้คุณครีเอทผลงานเจ๋งๆ มาฝากกันครับ

 

1. เลือกช่วงเวลาให้ดี ถ่าย Timelapse ให้ว้าว!

 

ช่วงเวลาเป็นสิ่งสำคัญมากในการบันทึกภาพและวิดีโอ โดยเฉพาะกับการถ่าย Timelapse คุณต้องรู้จักวางแผน แล้วเลือกช่วงเวลาให้เหมาะสม โดยแนะนำให้ช่วงที่จะถ่ายทำนั้นมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเยอะๆ ถึงจะครีเอทวิดีโอ Timelapse ที่เก๋ๆ และสวยงามได้ครับ

 

 

เช่น หากต้องการถ่าย Timelapse ช่วงเวลากลางวันจนถึงกลางคืน คุณควรเริ่มถ่ายจากช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน โดยบันทึกวิดีโอให้เห็นวิวและแสงสีของท้องฟ้าที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ แล้วเมื่อ Osmo Pocket ประมวลผลให้เป็นแบบ Timelapse จนเห็นการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว คุณก็จะได้วิดีโอที่บันทึก Magic Hour แบบรวดรัด ที่สวยงามเลยล่ะครับ

 

>> แต่ถ้าคุณมีเวลาจำกัด วิธีง่ายๆ แต่ได้ผลลัพธ์แบบเดียวกันคือ ให้คุณกำหนดตำแหน่งและมุมมองในการบันทึกภาพ จากนั้นเริ่มบันทึกวิดีโอสั้นๆ 2 ช่วงเวลา ทั้งกลางวันและกลางคืน แล้วนำทั้ง 2 คลิปมาตัดต่อเข้าด้วยกัน ก็จะได้ Timelapse ที่สวยงาม เพราะเห็นการเปลี่ยนแปลงจากกลางวันไปกลางคืนเหมือนกันครับ

 

>> หรือถ้าจะเพิ่มความน่าสนใจของ Timelapse ด้วยการลองเล่นวิดีโอแบบย้อนกลับ คุณก็จะได้ผลลัพธ์เหมือนการย้อนเวลา โดยหากเป็นกรณีนี้ แทนที่จะเห็นจากสว่างจนค่อยๆ มืด ก็จะกลายเป็นเริ่มจากมืดแล้วมาสว่างครับ

 

2. เล่นกับมุมกล้อง ให้เหมือนกำลังรีบหม่ำเมนูสุดโปรด

 

อาหารบางอย่างดูน่าทาน จนคุณต้องขอถ่ายไว้เพื่อแชร์ลงโซเชียลมีเดีย แต่จะให้น่าสนใจยิ่งขึ้น ก็ต้องครีเอทมุมมองที่แปลกใหม่สักนิด เช่น บันทึกวิดีโอ Timelapse ให้ดูเหมือนกล้องกำลังรีบหม่ำอาหารสุดโปรดของคุณอยู่แบบแทบอดใจไม่ไหว

 

 

 

 

โดยเทคนิคเล่นกับมุมกล้องแบบนี้นอกจากจะดูสนุกแล้ว ยังสามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้ครับ

 

ขั้นตอนที่ 1 >> วาง Osmo Pocket ของคุณไว้บนโต๊ะ แล้วเลือกโหมด Timelapse ซึ่งเราแนะนำให้คุณตั้งช่วง interval หรือระยะห่างในการบันทึกแต่ละช็อต ไว้ที่ 3 วินาที

ขั้นตอนที่ 2 >> เมื่อเริ่มบันทึกวิดีโอ ให้ถืออาหารสุดโปรดของคุณด้วยสองมือ โดยเว้นระยะห่างจากตัวกล้องเล็กน้อย พร้อมขยับเข้าหากล้องทุกๆ 3 วินาที เหมือนในวิดีโอด้านล่างนี้ครับ

 

 

ขั้นตอนที่ 3 >> เมื่อบันทึกภาพอาหารครบทุกมุมมองแล้ว ให้คุณรีบทานอาหารบางส่วน หลังจากนั้นนำไปไว้ที่หน้ากล้องเหมือนเดิม และค่อยๆ บันทึกวิดีโอแบบเดิมต่อไป

ขั้นตอนที่ 4 >> หลังจากบันทึกวิดีโอเสร็จแล้ว คุณสามารถแก้ไขวิดีโอให้ดูสมูทและตัดต่อส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปได้ในแอปฯ DJI Mimo ครับ

 

3. สนุกกับเอฟเฟกต์แบบหายตัวได้! (Teleport)

 

แม้แต่สิ่งของทั่วไปในชีวิตประจำวันอย่างนาฬิกา ก็สามารถนำมาเพิ่มลูกเล่นให้กับวิดีโอได้ ด้วยการสร้างเอฟเฟกต์สุดเจ๋งแบบหายตัวได้อย่าง Teleport ซึ่งในตัวอย่างของเรา จะเล่นกับการหมุนของเข็มนาฬิกา การหมุนมุมกล้อง และการเปลี่ยนสถานที่ครับ

 

 

เพื่อให้ได้ผลงานเหมือนในวิดีโอด้านบนนี้ สิ่งที่คุณต้องทำคือ ตั้งนาฬิกาไว้ในสถานที่ต่างกัน 2 แห่ง จากนั้นเลือกโหมด Timelapse บน Osmo Pocket พร้อมตั้งเวลาที่ต้องการถ่ายทำ หลังจากนั้นนำวิดีโอ Timelape ทั้ง 2 คลิปมาต่อเข้าด้วยกัน และเพื่อให้ได้เอฟเฟกต์ Teleport ที่สมบูรณ์แบบที่สุด แนะนำให้วางตำแหน่งของนาฬิกาในเฟรมภาพไว้ที่เดิมตลอด เวลารวมคลิป Timelapse กันแล้ว จะได้ดูเหมือนนาฬิกาหายตัวได้ เพราะมีแค่ฉากหลังที่เปลี่ยนไป ทั้งนี้ เพื่อให้ดูมายากลขึ้น ควรให้เข็มนาฬิกาเดินอยู่ตลอด และเพิ่มการหมุนมุมกล้องเข้าไปในขั้นตอนการตัดต่อวิดีโอด้วยครับ

 

4. กลับมุมมอง ให้เห็นการสะท้อนกับมิติใหม่ๆ

 

หลายคนคงเคยเห็นภาพสะท้อนในหยดน้ำหรือแก้วกันมาบ้างแล้ว แต่คุณเคยลองใช้เทคนิคนี้ถ่ายวิดีโอ Timelapse ดูบ้างไหม? รับรองว่าหากถ่ายดีๆ จะได้วิดีโอที่สวยงาม และแปลกตาไปอีกแบบครับ

 

เช่นตามวิดีโอ Timelapse ด้านล่างนี้ ที่ใช้เทคนิคการสะท้อนบนลูกแก้วทรงกลม ก็จะเกิดเป็นมุมมองแบบกลับด้าน ให้เห็นบรรยากาศโดยรอบที่เปลี่ยนผ่านไปตามกาลเวลา ในแบบที่ดูเก๋และเท่มากๆ เลยล่ะครับ

 

 

อยากลองถ่าย Timelapse ตามไอเดียนี้ เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการวางลูกแก้วให้อยู่บนพื้นราบในระดับเดียวกับวัตถุ หรือสภาพแวดล้อมที่คุณต้องการจะบันทึกวิดีโอ โดยสามารถเลือกมุมให้เห็นภาพสะท้อน ในแบบที่สวยงามได้ตามต้องการ

 

 

จากนั้นวาง Osmo Pocket โดยเว้นระยะห่างจากลูกแก้ว ให้สามารถมองเห็นทุกองค์ประกอบที่ครบถ้วนจากลูกแก้ว จากนั้นก็เริ่มการถ่ายทำได้ แต่ถ้าจะให้วิดีโอออกมาเจ๋งยิ่งขึ้น ให้เพิ่มการหมุนภาพเข้าไปในขั้นตอนการตัดต่อวิดีโอด้วยครับ

 

5. เห็นการเปลี่ยนเวลา พร้อมเปลี่ยนสถานที่ กับ Hyperlapse

 

นอกจากโหมด Timelapse และ Motionlapse แล้ว Osmo Pocket ยังให้คุณสามารถถ่ายวิดีโอแบบ Hyperlapse ได้ด้วย ซึ่งเป็นการถ่ายวิดีโอแบบ Timelapse พร้อมเคลื่อนจุดตั้งกล้องได้ ไม่ว่าจะกำลังเดิน กำลังนั่งรถ ก็ถ่ายวิดีโอ Timelapse ไปพร้อมๆ กันได้อย่างอิสระ เหมือนในวิดีโอด้านล่างนี้ครับ

 

 

วิธีบันทึก Hyperlapse คือ ก่อนเริ่มถ่ายวิดีโอ ให้เปิดใช้งานโหมด ActiveTrack บน Osmo Pocket ก่อน พร้อมวาดกรอบตรงวัตถุที่ต้องการ และเดินเข้าหาช้าๆ เพื่อบันทึกภาพของวัตถุเป้าหมาย หลังจากนั้น ให้ทำการเร่งความเร็วของระยะเวลาในขั้นตอนการตัดต่อ เพียงเท่านี้ คุณก็ได้ผลงานวิดีโอแบบ Hyperlapse แล้วครับ

 

 

ลองดูวิดีโอแนะนำการถ่าย Timelapse เพิ่มเติมได้ที่ด้านล่างนี้ครับ

 

 

 

เห็นไหมครับว่า คุณเองก็สามารถครีเอทผลงานเจ๋งๆ แบบนี้ได้ง่ายๆ ด้วย Osmo Pocket หากคุณมีไอเท็มนี้ไว้ในมือแล้ว ก็ออกไปลองทำอะไรใหม่ๆ กันได้เลย! แต่ถ้าใครยังไม่มี สามารถเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ DJI Phantom Thailand ในราคา 13,500 บาทครับ ^^

 

=======================

 

DJI PHANTOM THAILAND

ตัวแทนจำหน่ายขายโดรน DJI อย่างเป็นทางการ ทั้ง 5 สาขา ได้ที่

-DJI @SiamDiscovery โซน Digital Lab ชั้น 2
-DJI @Central Westgate ชั้น 2
-DJI @Megabangna ชั้น 2
-DJI @Central Festival หาดใหญ่ ชั้น 3
-DJI Service Center พญาไท @KSL Tower

ทดลองบินฟรีก่อนตัดสินใจ

บริการสอนการใช้งานฟรี!

#DJI_Authorized_Dealer

#DJI_Service_Center

ศูนย์บริการ DJI มาตรฐานแห่งแรกในไทย

Inbox: http://m.me/everyonecanfly

LINE: http://line.me/ti/p/[email protected]

Phone: 02-026-3807

[email protected]

http://www.phantomthailand.com

 

=======================

 

ข้อมูลจาก DJI

แปลและเรียบเรียงโดย DJI Phantom Thailand