BUYING GUIDES
SEP 06,2017
อย่าเพิ่งสรุปว่าโดรนน้องใหม่ล่าสุดในตระกูล Mavic อย่าง Mavic Pro Platinum จะแตกต่างจากรุ่นพี่แค่เพราะมีสีแพลตตินัมเท่ๆ นะครับ เพราะจริงๆ แล้วสมรรถนะของมันก็ถูกอัพเลเวลขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งจะดีกว่าเดิมแค่ไหน และมีอะไรเกี่ยวกับโดรนรุ่นนี้ที่น่าสนใจบ้าง เรามารู้พร้อมๆ กันเลยครับ!
Mavic Pro Platinum VS Mavic Pro
#สี
เป็นจุดต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดเลยครับ เพราะในขณะที่ Mavic Pro มีสีเทาค่อนไปทางเข้ม ดูเท่แบบขรึมๆ Mavic Pro Platinum จะมีบอดี้สีแพลตตินัม ที่ดูเท่แบบเฟี้ยวฟ้าวและหรูหราขึ้นมาหน่อย ทั้งนี้ตรงขาของตัวลำด้านหน้า ก็จะมีตัวอักษรสีขาวสกรีนไว้ด้วยว่าเป็น Mavic Pro Platinum ครับ
#เสียง
Mavic Pro Platinum สามารถบินด้วยเสียงที่เบาลงกว่าเดิมได้ถึง 4 เดซิเบล ซึ่งคิดเป็นประมาณ 60% เลยทีเดียว เมื่อเทียบกับ Mavic Pro ครับ โดยการที่เสียงเบาลงได้นี้ เกิดจากการใช้ใบพัดรุ่นใหม่ เป็นรุ่น 8331 บวกกับการใส่เทคโนโลยี FOC (Field Oriented Control) ไว้ให้ใน ESC หรือมอเตอร์ขับเคลื่อนใบพัดของ Mavic Pro Platinum เพราะมันจะสามารถส่งกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในการขับเคลื่อนเป็นคลื่นแบบ Sine Wave ที่ไหลลื่นมากกว่าการส่งกระแสไฟฟ้าในมอเตอร์ใบพัดของ Mavic Pro แบบเก่าได้ ดังนั้น เวลาที่เราบิน Mavic Pro Platinum จึงสบายใจได้มากขึ้นจากปัญหาเรื่องเสียงรบกวนครับ
#ระยะเวลาบิน
ในขณะที่ Mavic Pro บินได้นานสูงสุด 27 นาที พอเป็น Mavic Pro Platinum ซึ่งมีเทคโนโลยีมอเตอร์ขับเคลื่อนและใบพัดแบบใหม่ตามที่เราอธิบายไปก่อนหน้าแล้ว เทคโนโลยีนี้ยังช่วยประหยัดแบตเตอรี่ จนทำให้ Mavic Pro Platinum บินได้นานสูงสุดถึง 30* นาทีเลยครับ นานกว่า Mavic Pro ถึง 3 นาที จึงช่วยให้เรามีเวลามากขึ้น ในการบินเก็บช็อตสวยๆ ครับ
(*เมื่อบินด้วยความเร็วไม่เกิน 25 กิโลเมตร/ชั่วโมง และไม่มีแรงลมต้าน)
#ระยะควบคุม และ Live Stream
ทั้ง Mavic Pro Platinum และ Mavic Pro ใช้เทคโนโลยี OcuSync HD image transmission ในการสื่อสารระหว่างโดรนกับรีโมตฯ เหมือนกันครับ โดยเทคโนโลยีนี้มีระยะในการสื่อสารและควบคุมได้ไกลสุดถึง 7 กิโลเมตร (เมื่อไม่มีสัญญาณรบกวน) และสามารถถ่ายทอดสดภาพ Live Stream ได้ชัดสุดที่ 1080p ครับ
#ระบบป้องกันการชน หลบหลีกสิ่งกีดขวาง และเซ็นเซอร์ช่วยบิน
เป็นอีกเรื่องที่ Mavic Pro Platinum และ Mavic Pro มีเหมือนกันครับ โดย ทั้งคู่นั้นมีเซ็นเซอร์คอยตรวจจับสิ่งกีดขวางที่ด้านหน้าและด้านล่าง ไว้คอยช่วยเรื่องความปลอดภัยในการบิน ที่สำคัญ เซ็นเซอร์ด้านล่างยังเป็นส่วนที่ช่วยให้การบินในอาคารเสถียรและมีความแม่นยำมากขึ้น แม้ว่าคุณจะกำลังควบคุมการบินในอาคาร ที่ไม่สามารถรับสัญญาณ GPS ได้อยู่ก็ตาม
#ระบบกล้อง
กล้องของ Mavic Pro Platinum ถูกขับเคลื่อนด้วยระบบกิมบอลแบบ 3 แกน รุ่นที่เล็กที่สุดของ DJI ครับ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนที่แม่นยำและลื่นไหลมาก คุณจึงสามารถบันทึกภาพและวิดีโอได้ชัด ไม่เบลอ และนิ่งสมู้ทสุดๆ ส่วนเรื่องความคมชัด กล้องของ Mavic Pro Platinum เป็นเลนส์แบบ 28 mm f/2.2 ซึ่งให้ความละเอียดสูงสุดได้ที่ 4K สำหรับวิดีโอ และที่ 12 ล้านพิกเซลสำหรับภาพนิ่ง ที่เลือกบันทึกเป็นแบบ RAW หรือ JPEG ก็ได้ด้วยครับ
#ความสะดวกในการพกพา
ด้วยขนาดกะทัดรัดและมีใบพัดแบบพับได้ Mavic Pro Platinum จึงเป็นโดรนที่สะดวกมากๆ ในการพกพาไปไหนมาไหนด้วย ทั้งนี้ น้ำหนักของมันก็แค่เพียง 734 กรัม ส่วนเรื่องขนาดก็แค่ 83x83x198 มิลลิเมตร เท่านั้น จึงพกง่ายใช้คล่องแน่นอนครับ
#ราคา
ตอนนี้ Mavic Pro ราคาปกติอยู่ที่ 42,300 บาท และถ้าเป็นชุดใหญ่แบบ Fly More Combo ราคาจะอยู่ที่ 55,000 บาท ส่วน Mavic Pro Platinum ซึ่งถูกอัพระดับสมรรถนะขึ้น ราคาก็จะสูงขึ้นไปอีกนิด ชุดปกติอยู่ที่ 46,600 บาท และถ้าชุดใหญ่ Fly More Combo จะอยู่ที่ 59,300 บาทโดยตอนนี้ Phantom Thailand เปิดให้พรีออเดอร์กันได้แล้วนะครับ ที่ลิงก์นี้เลย https://www.phantomthailand.com/preorder/mavic-pro-platinum/ จ่ายก่อนแค่เพียง 1,000 บาทเท่านั้น เอาล่ะ รู้ความต่าง รู้ราคากันแล้ว ลองเลือกรุ่นที่ใช่สำหรับคุณกันดูสิครับ ^^
---------- ---------- ---------- ---------- ---------- ----------
Mavic Pro Platinum FAQ
>> - Mavic Pro Platinum มีระยะในการบินสูงสุดได้นานขึ้น อยู่ที่ 30 นาที มากกว่า Mavic Pro ที่ได้สูงสุด 27 นาทีครับ
- Mavic Pro Platinum มีเทคโนโลยีมอเตอร์ขับเคลื่อนและใบพัดรูปแบบใหม่ ที่ช่วยลดเสียงรบกวนได้ถึง 4 เดซิเบล ซึ่งคิดเป็น 60% เมื่อเทียบกับ Mavic Pro
- ภายนอกดูต่างชัดเจนด้วยสีแพลตตินัม แต่ Mavic Pro Platinum ก็ยังมีครบทุกฟังก์ชันการใช้งานเจ๋งๆ เหมือนกับ Mavic Pro
>> ได้ครับ
>> สามารถลดเสียงรบกวนได้ไม่ว่าจะเลือกโหมดไหนครับ
>> ไม่ได้ครับ Mavic Pro Platinum ถูกออกแบบมาให้ขึ้นบินและลงจอดบนพื้นเรียบและไม่มีแอ่งน้ำเท่านั้น
>> รีโมตฯ ของ Mavic Pro Platinum เหมาะกับการใช้ร่วมกับสมาร์ตโฟนที่มีความหนาระหว่าง 6.5-8.5 มิลลิเมตร และยาวไม่เกิน 160 มิลลิเมตร เมื่อไม่ได้ใส่เคสนะครับ
>> ได้ครับ แต่เพื่อความสะดวกและประสบการณ์การบินที่ดีที่สุด แนะนำให้ใช้ตัวเชื่อมต่อแบบบิ้วท์อินที่มีอยู่ในรีโมตฯ นั่นแหละ จะเวิร์กสุดๆ ครับ
>> แค่พับขาของตัวลำแล้วพับใบพัดตาม เท่านี้ก็พร้อมเดินทางได้ ไม่ต้องถอดออกให้เสียเวลาครับ
>> เมื่อมอเตอร์ใบพัดเริ่มหมุน จะมีแรงส่งที่ช่วยให้ใบพัดกางออกโดยสมบูรณ์ได้ ฉะนั้น ไม่ต้องกังวลครับ
=======================
เอาล่ะ เทียบให้ดูและตอบคำถามที่น่ารู้ไปแล้ว ใครสนใจอยากลองของจริง เชิญได้เลยที่ DJI Phantom Thailand ทั้ง 3 สาขา ที่ สยามดิสคัฟเวอรี เซ็นทรัล เวสเกต และช่างชุ่ย นะครับ ^^
=======================
ข้อมูลจาก DJI
แปลและเรียบเรียงโดย DJI Phantom Thailand
=======================
สนใจติดต่อ Phantom Thailand
ตัวแทนจำหน่าย DJI อย่างเป็นทางการ
ทดลองบินฟรีก่อนตัดสินใจ
บริการสอนการใช้งานฟรี!
#DJI_Authorized_Dealer
#DJI_Service_Center
ศูนย์บริการ DJI มาตรฐานแห่งแรกในไทย
Inbox: http://m.me/everyonecanfly
LINE: http://line.me/ti/p/~@phantomthailand
Phone: 062-594-6441
http://www.phantomthailand.com